วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อาการผิดปกติยามร่วมเพศ ที่ผู้หญิงไม่กล้าถามหมอ

อาการผิดปกติยามร่วมเพศ ที่ผู้หญิงไม่กล้าถามหมอ ตอน ปัญหาจิ๋มคาวจิ๋มตด...@Bitchy, 
By Lady Manager @Bitchy


สาวบางคนไม่รู้เป็นไรฟูมฟายหรือไม่ก็เกิดอาการซึมเศร้าหลังกินตับกับสามี
       บางนางผ่านสมรภูมิมาไม่น้อย แต่ทำไม๊หลังร่วมเพศทุกครั้ง เลือดยังซึม
       ซึ่งนางทั้งหลายมักไม่กล้าพาตัวเองไปขึ้นขาหยั่ง ปรึกษาหาหมอสูติฯ

       
ไม่เป็นไรค่ะ
       
เราจะตอบ ช่วยคลายความกังวลแก่คุณเอง เพื่อดูว่าพฤติกรรมใดถือว่าปกติ และอาการไหนเข้าขั้นผิดปกติแล้ว คุณต้องไปหาสูตินรีแพทย์ได้แล้วล่ะ อย่ามัวเหนียมอายหรือเขียมเงินค่าตรวจอยู่เล้ย
       ปัญหาจิ๋มคาวจิ๋มตด
      
“ดิฉันรู้สึกว่าอวัยวะเพศของตัวเองมีกลิ่น เป็นกลิ่นคาวๆ เป็นมาหลายปีแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องปกติไหมคะ หรือว่าดิฉันควรกังวลและไปหาหมอ?”
อืม ไม่เสมอไปค่ะ เรื่องกลิ่นแถวอวัยวะเพศหญิงเรานี้อาจเป็นทั้งเรื่องปกติและไม่ปกติ
        
ในกรณีของคุณน่าจะเข้าข่ายว่าเป็น ‘อาการปกติ’ เพราะคุณบอกว่าเป็นมาหลายปีแล้ว ซึ่งคุณก็ไม่มีอาการอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย อาทิ คัน แสบ ปวด ฯลฯ สาวเรามักพกจิตใต้สำนึกกังวลเรื่องกลิ่นมากกว่าตัวคุณผู้ชายที่นอนเปลือยกายข้างๆ ซะอีก ที่สำคัญ คุณรู้ไหมว่า กลิ่นคาวๆ บูดๆ นี่แหล่ะตัวเร้ากำหนัดดีนัก
        
ผู้ชายไม่เพียงไม่รังเกียจกลิ่นอวัยวะเพศผู้หญิง แต่ยังรู้สึกถูกดึงดูด เกิดความรู้สึกทางเพศมากยิ่งขึ้นเมื่อได้กลิ่น...
       
ผู้หญิงเราน่ะซิถูกสังคมถูกขนบวัฒนธรรมครอบงำ ว่าต้องแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยสะอาดสะพรั่ง ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ถึงจะเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ คุณเธอก็ลงทุนซื้อน้ำหอมพรมฉีดเข้าไป โดยหารู้ไม่ว่า เสน่ห์บนเตียงน่ะอยู่ตรงกลิ่นดิบๆ จากหว่างขาหล่อนแหล่ะย่ะ ผู้ชายน่ะเขาไม่ชอบกลิ่นฉุนๆ บนเนื้อนางหรอกนะ
        
แต่หากน้องสาวคุณไม่เคยส่งกลิ่นเลย ต่อมาหลังๆ เอ๊ะ! ทำไมมีกลิ่นอับๆ คาวๆ บูดๆ โชยออกมาจนคุณเองฉงน หรือคุณผู้ชายข้างกายเอะใจถามขึ้นมา กรณีนี้แหล่ะค่ะที่ ‘ผิดปกติ’ คุณต้องไปหาหมอตรวจภายใน เพราะคุณอาจกำลังติดเชื้อ… พาน้องจิ๋มไปรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด่วนเลยค่ะ  

“บางครั้งฉันตดตอนมีเซ็กซ์ มันออกมาเอง ควบคุมไม่ได้เลย สาเหตุคืออะไรคะ คนอื่นเป็นกันหรือเปล่า?”
มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเผลอผายลมขณะร่วมเพศ ทว่า ‘ลม’ ที่ออกมานั้น มาจากช่องคลอด หาใช่ ‘รูทวาร’ นพ.กิตติ ตู้จินดา สูติ-นรีแพทย์ แห่งโรงพยาบาลพญาไท 2 เคยอธิบายผ่านบทความ “จิ๋มตดขณะติ๊ดชึ่ง เรื่องปกติของกามกิจ หรือเครื่องหลวม!?!” ตามหลักการ ‘ปั๊มลม’ ว่า
        
"สาเหตุ คือ Suction-Effect แรงดูด ก็คือ ช่องคลอดขยาย ถึงดูดอากาศข้างนอกเข้าไปได้ อากาศจะขึ้นจากที่มีความดันสูง พอมีสเปซ (space) ช่องคลอดขยาย มันจะดูดอากาศเข้าไป ผสมกับการ Pumping Effect คือ ตอนผู้ชายเอาเข้าเอาออก ก็จะปั๊มอากาศ ดันอากาศเข้าไป
       
การที่มีลมเข้าไปและลมออกมาในเวลารวดเร็ว จึงทำให้มีเสียง แต่ถ้าลมค่อยๆ ออกมา ก็จะไม่มีเสียงลมมันต้องเข้ามาจากข้างนอกแน่นอน”
        
นพ.กิตติขยายความว่า การผายลมทาง ‘ก้น’ กับ ‘ช่องคลอด’ ต่างกันคนละขั้ว
        
"ศัพท์ทางการแพทย์เค้าเรียกว่า Vaginal Flatulence หรือภาษาทั่วไป Vaginal Fart เพราะ Fart แปลว่า ผายลม
       
แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่เป็นการผายลมนะครับ มันเป็นแอร์ (air-อากาศ) คือ อากาศที่อยู่รอบตัวเรา แต่ถ้าเป็นการผายลมที่ออกมาจากทางก้น จะเป็นแก๊ส (gas) คือ การหมักของเสียจากลำไส้ใหญ่ ส่วนผสมคนละเรื่องเลย อันนี้มีกลิ่น แต่การผายลมที่ออกมาจากช่องคลอดจะไม่มีกลิ่น แต่อาจทำให้เสียบรรยากาศได้"
        
ค่ะ ประเด็นนี้จึงถือเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ท่ายอดฮิต Doggy Style ซึ่งหากไม่อยากได้ยินเสียงจิ๋มตด เสียบรรยากาศ! นพ.กิตติแนะให้ใช้ท่าร่วมรักที่แนบชิดติดกัน ไม่ต้องอ้าขากว้างมากนัก โอกาสลมออกก็จะน้อยลง




       “การที่ wet (..แฉะ เปียก) มากๆ ก็มีส่วนนะ คือ การที่มีน้ำหล่อลื่นมากทำให้หลุด หลวม และขยาย เพราะเวลาที่ผู้หญิงมีอารมณ์ร่วมทางเพศมากๆ ช่องคลอดจะขยายโดยสรีระวิทยา
        ตามหลักการ ถ้าผู้หญิงไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมทางเพศช่องคลอดจะไม่ขยาย จึงไม่ค่อยเกิดลมออกมาจากช่องคลอด และถ้าไม่มีอารมณ์ทางเพศน้ำหล่อลื่นจะไม่มี ปากช่องคลอดก็จะเจ็บ’’
       นพ.กิตติยังย้ำด้วยว่า การผายลมทางช่องคลอดไม่ได้เป็นกันทุกคน แต่พบบ่อยสำหรับ ผู้หญิงที่เคยผ่านการคลอดลูกมาแล้ว
       "เป็นเรื่องธรรมชาติและปกตินะสำหรับการร่วมเพศที่เวลามีลมออกมาจากช่องคลอด ใครๆ ก็เป็นกันได้ เพราะถ้าช่องคลอดเกิดฟิต (fit-กระชับ) มากๆ ลมก็จะไม่ค่อยเข้า"
       การขมิบสามารถช่วยให้ช่องคลอดของคุณกระชับขึ้นค่ะ แต่ต้องขยันขมิบให้ได้วันละร้อยครั้งนะคะ ถึงเอาอยู่!
      อ่านเพิ่มเติม ขยัน“ขมิบ” แล้วชีวิตรักจะ“กระชับ”ขึ้น 
 อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
       
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th





























0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น