วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อายุเปลี่ยน วัยเปลี่ยน อารมณ์ทางเพศเปลี่ยน... จริงหรือ

ที่มาของภาพ :    www.0991x.com
ในขณะที่ผู้หญิงอายุ 50 ปี หมดโอกาสมีลูกโดยธรรมชาติ แต่ผู้ชายที่สุขภาพแข็งแรง กลับยังคงดำรงความสามารถในการเจริญพันธุ์ได้เป็นอย่างดี จนอาจเรียกได้ว่า ไม่มีขีดจำกัดในด้านอายุ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบางอย่างที่ลดความสามารถในการเจริญพันธุ์ของผู้ชาย ได้แก่
1. อายุที่สัมพันธ์กับการลดลงของกิจกรรมทางเพศ
2. การลดของกระบวนการสร้างอสุจิ
3. อายุและภาวะเจริญพันธุ์ของภรรยา
ผู้ชายอายุ 50 ปี ยังมีความต้องการทางเพศสูง การมีเพศสัมพันธ์ที่สม่ำเสมอ ย่อมจะช่วยรักษาความมั่นคงของครอบครัวไว้ จากการศึกษาของเวอร์เวิร์ด (Verwoerdt et al) พบว่ามีเพียง 15% ของชายอายุเกิน 60 ปีเท่านั้น ที่ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์
อายุกับความต้องการทางเพศและฮอร์โมน
   ในผู้ชายนั้นความต้องการทางเพศจะต้องอาศัยฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) แม้ภายหลังอัณฑะหยุดทำงานไปแล้ว หลักฐานที่สนับสนุนได้จากการศึกษาทดลองให้ฮอร์โมนเพศทดแทน ในผู้ชายที่มีความรู้สึกทางเพศเสื่อมจากระบบคำสั่งจากสมอง (Hypogonadal men) ทำงานบกพร่อง โดยฮอร์โมนจะไปกระตุ้นให้ความรู้สึกทางเพศและการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นอย่างมาก
   การลดลงของฮอร์โมนเพศชายเริ่มปรากฏชัดตั้งแต่อายุ 50-55 ปี ประมาณ 0.8% ต่อปี และเมื่ออายุ 70 ปี ระดับฮอร์โมนเพศ (free testosterone) จะเหลือเพียง 40% ของตอนอายุ 25 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากที่สมอง (Hypothalamic pituitary origin) หรือ (Decline in number of Leydig cell) ทำงานลดลง
   ลักษณะอาการแสดงของผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำ คือ มีการลดลงของเส้นผม ขนตามตัว ขนาดกำลังและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ รวมทั้งความต้องการทางเพศก็ลดลง แต่ปริมาณไขมัน บริเวณหน้าท้องและภาวะกระดูกเปราะบางกลับมีมากขึ้น
   มีการศึกษาในผู้ชายที่สุขภาพแข็งแรงจำนวน 77 คน อายุระหว่าง 45-75 ปี พบว่า ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศสูงจะมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอกว่าผู้ที่มีฮอร์โมนเพศต่ำกว่า ซึ่งเหมือนกับการทดลองให้ยาฮอร์โมนเพศ (Testosterone 200 mg) เป็นเวลา 6 สัปดาห์ กับผู้ชายจำนวนหนึ่งที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอายุ 40-67 ปี แล้วยังผลให้มีความต้องการทางเพศ และเพศสัมพันธ์มากขึ้น


ในผู้หญิงนั้น ฮอร์โมนเพศชายก็มีความสำคัญต่อความต้องการทางเพศด้วยเช่นเดียวกัน โดยพบว่า ผู้หญิงที่ถูกตัดรังไข่ออกทั้งหมดซึ่งแทบจะไม่มีฮอร์โมนเพศชายเหลืออยู่เลย จะมีผลให้ความต้องการทางเพศลดลงอย่างมาก
อายุกับความถี่บ่อยของการมีเพศสัมพันธ์  ความถี่บ่อยของการร่วมเพศจะลดลงไปตามอายุ จากช่วงมากที่สุด ระหว่างอายุ 20-25 ปี มีความถี่เฉลี่ย 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ลดลงเป็น 1 ครั้งต่อสัปดาห์ที่อายุ 55-60 ปี และลดลงเหลือ 3 ครั้งใน 1 เดือนที่อายุ 70 ปี หลังจากอายุ 75 ปีขึ้นไปจะมีเพศสัมพันธ์เพียง 1.7 ครั้ง ต่อ 1 เดือนเท่านั้น
   นอกจากนี้ การอ่อนตัวของอวัยวะเพศชายระหว่างร่วมเพศ (Impotence) จะพบมากขึ้น ตามอายุเช่นเดียวกัน โดยก่อนอายุ 30 ปี แทบไม่มีการเกิดภาวะอ่อนตัวของอวัยวะเพศเลย แต่พออายุ 55 ปี จะเกิดภาวะนี้จาก 8% เพิ่มเป็น 20% ที่อายุ 65 ปี, 40% ที่อายุ 70 ปี หลังจากนี้จะเกิดมากกว่า 50% ซึ่งฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง และส่วนใหญ่ระดับฮอร์โมนเพศจะลดลงมากกว่า 50%
   การสร้างตัวอสุจิและความสามารถในการปฏิสนธิ (Spermatogenesis & Sperm Fertilizing Capacity)
อิทธิพลของอายุต่อคุณภาพของอสุจิ พบว่า น้ำอสุจิที่หลั่งออกมา มีปริมาณลดลงตั้งแต่อายุ 35 ปี แม้ว่า กระบวนการสร้างจะลดลง แต่คุณภาพและความสามารถในการปฏิสนธิยังดีอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าอายุผู้ชายจะเพิ่มมากขึ้นเท่าใดก็ตาม ภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดลงจึงน่าจะเป็นผลมาจากสาเหตุอื่น เช่น ความต้องการทางเพศที่ลดลงและการมีเพศสัมพันธ์ที่น้อยเกินไป
อายุกับภาวะเจริญพันธุ์ของคู่สมรส
   ปัจจุบันพบว่า มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของเด็กที่เกิดจากการแต่งงานของสามีที่อายุมากกว่า 60 ปี กับสตรีอายุน้อยๆ นี่จึงเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่า อายุของฝ่ายชายไม่ใช่สาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยาก แต่จากงานวิจัยที่ผ่านมาจำนวนมาก มีข้อมูลตรงกันว่า ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงจะลดลง ตามอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
หลักฐานอย่างหนึ่ง ก็คือ อัตราการตั้งครรภ์สะสมจากการฉีดเชื้อของชายอื่น (Donor Semen) จะลดลงในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 31-35 ปีเป็นต้นไป นอกจากนั้น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรืออิ๊กซี่ (ICSI) ในหญิงที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการตั้งครรภ์ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน
   อายุของผู้หญิงที่มากขึ้น โดยเฉพาะอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป จะมีผลทำให้รังไข่ดื้อต่อยากระตุ้นนอกจากนั้น เวลาเจาะเก็บไข่ก็จะได้จำนวนไข่สุกสมบูรณ์ที่น้อยมาก รวมทั้งอัตราการแท้งสูงถึง 50% อีกด้วย
สำหรับปัจจัยทางด้านมดลูก Flamigni และคณะ รายงานว่า ตัวอ่อนที่เกิดจากไข่ของผู้หญิง อายุเกิน 40 ปี มีอัตราการฝังตัวเพียง 10% ในขณะที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่า 35 ปีมีอัตราการฝังตัวสูงขึ้น 23% ซึ่งตรงกับงานของ Meldrum ที่ศึกษา พบว่า อัตราการตั้งครรภ์ของผู้หญิงที่อุ้มบุญซึ่งอายุน้อยกว่า 40 ปี เปรียบเทียบกับที่อายุมากกว่า 40 ปี จะเท่ากับ 43% และ 8% ตามลำดับ
   โดยสรุปแล้ว อายุของผู้ชายไม่ได้มีผลโดยตรงต่อคุณภาพและความสามารถในการปฏิสนธิของอสุจิ แม้ว่าปริมาณจะลดลงไปบ้างตามอายุ แต่อายุของผู้หญิงที่เพิ่มขึ้นย่อมมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่ หากมองจากทั้งสองฝ่าย ก่อนอายุ 35 ปี การเปลี่ยนแปลงของภาวะเจริญพันธุ์ของคู่สมรส จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมทางด้านเพศสัมพันธ์ (Coital Behavior) เป็นหลัก แต่หลังจากอายุ 35 ปี ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระวิทยา (Physiology)
"อายุ" ไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลข มันมีความหมายมากกว่านั้นมาก "อายุ" ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย เรียนรู้ความเป็นผู้ใหญ่ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว และความรักที่ปราศจากเงื่อนไข จากการเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะหันกลับมามองคนที่อยู่เคียงข้าง และบอกกับเธอว่า "โลกนี้น่าอยู่…เพราะมีชีวิตคู่"
ถ้าพูดกันตรงๆ เปิดใจกันแฟร์ๆ สำหรับหนุ่มๆ เราแล้ว เรื่องเซ็กส์นี่เรื่องสำคัญเลยนะ แต่เราจะไม่ค่อยกล้าพูดกัน เพราะพอเอ่ยปากถึงเรื่องนี้ที่ไร คนก็มักมองว่าเป็นเรื่องน่าอาย พูดไม่ได้ เข้าข่ายโรคจิต ทั้งที่จริงแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ แถมการมีเซ็กส์สามารถสร้างสุขภาพดีได้ 9 อย่างเลยเชียว
1. ช่วยให้ไม่เครียด การมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยทำให้เราไม่เครียด หรือหากถ้าเราเครียดอยู่แล้วก็จะหายไป เพราะหลังเสร็จสิ้นการลงสมรภูมิรัก ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนออกมาทำให้เรารู้สึกดี สบายคลายเครียด โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว เราเกิดมาเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ สัญชาติญาณและจิตใต้สำนึกก็จะบอกตัวเองอยู่เช่นนั้น เมื่อเราสามารถมีเพศสัมพันธ์ และทำการได้สำเร็จ สมองก็จะมีความสุข เพราะเหมือนได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญได้ลุล่วง
2. เพิ่มภูมิต้านทาน ถ้ามีเพศสัมพันธ์อย่างต่ำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ปริมาณของ lgA (ภูมิต้านทานชนิดหนึ่งพบมากในน้ำลาย) จะเพิ่มสูงขึ้น จึงสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าเก่า ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น ไม่เป็นไข้หวัดง่าย
3. ช่วยเบิร์นแคลอรี่ เคยมีงานวิจัยระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดี คือ การมีเพศสัมพันธ์ 30 นาที สามารถช่วยเบิร์นได้ถึง 85 แคลอรี แล้วยิ่งถ้าเปลี่ยนท่าเยอะ ยิ่งเบิร์นได้ถึง 125 แคลอรีเลย ช่วยเบิร์นได้มากกว่าการปั่นจักรยานในฟิตเนสซะอีกนะเนี้ย


4. ดีต่อสุขภาพหัวใจ การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้อัตราการเกิดโรคหัวใจ และเส้นเลือดตีบลดน้อยลง เพราะในขณะปฏิบัติการ หัวใจจะเต้นเร็วเหมือนตอนที่เราออกกำลังกายเลย แล้วก็เครียดน้อยลง เลือดก็จะไหลเวียนดีขึ้น เคยมีงานวิจัยบอกว่าคนสูงอายุที่ยังคงมีเพศสัมพันธ์อยู่ การเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่หยุดการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วด้วย
5. สุขภาพจิตดี เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์ ไม่ได้เป็นคนขี้แพ้ ขี้โรค เป็นที่ต้องการของคนอื่น เลยจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น อารมณ์แจ่มใส ไม่หงุดหงิดง่าย สบายใจ เรียกว่าการมีเพศสัมพันธ์นี่ ทำให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเราดีขึ้นโดยรวมเลย
6. ช่วยลดการเจ็บปวด ถ้าเราเกิดความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะทางใจหรือทางกาย การมีเพศสัมพันธ์เป็นยาขนานเอก ที่ช่วยแก้ปวดได้ดีเลยละ ยกตัวอย่างถ้าเราปวดฟันอยู่ แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ ความปวดนั้นจะลดน้อยลง เพราะร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาให้เรารู้สึกดี สบายมากขึ้น แล้วความรู้สึกนั้นก็จะกลบความเจ็บปวด ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดลดลงนั่นเอง
7. ลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก การมีเพศสัมพันธ์จะทำให้โอกาสการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง เพราะถ้าร่างกายไม่ได้หลังสเปิร์มออกมา มันจะดูดซึมกลับเข้าไปแล้วค่อยผลิตออกมาใหม่ จึงส่งผลอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์และเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แล้วการไม่ได้ปลดปล่อยจะทำให้เราเครียด ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้คนเราเป็นมะเร็งเหมือนกัน
8. เกิดการกายบริหาร ในชีวิตประจำวัน เราจะไม่ค่อยได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนเอวสักเท่าไหร่ การมีเพศสัมพันธ์นี่แหละ คือการกายบริหารช่วงเอวที่ดีที่สุด แถมส่งผลดีไปถึงระยะยาว เพราะเมื่ออายุมากขึ้นแล้วหกล้ม ก็จะไม่สะโพกหักได้ง่าย
9. นอนสบาย หลับสนิท หลักๆ เลย ก็เพราะหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนตัวหนึ่ง ที่จะช่วยให้หลับได้ดีขึ้น นอกจากนี้ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า การมีเพศสัมพันธ์ช่วยคลายความเครียด ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย กล้ามเนื้อที่ตึงตัวอยู่ก็จะคลายตัว แล้วพอร่างกายทั้งภายนอกและภายในพร้อม คุณเลยหลับได้สนิท ฝันหวานไปเลย
เห็นไหมว่า การมีเพศสัมพันธ์มีประโยชน์มากมายเลย ฉะนั้น อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองให้ฟิตปั๋ง ด้วยการทานอาหารที่ดีๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลี่ยงสิ่งที่จะมาบั่นทอนสุขภาพซะ แล้วจะสุขภาพแข็งแรง มีเซ็กส์ที่มีคุณภาพและทำให้สุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีกไงล่ะ

ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.narak.com
www.cityvariety.com
women.mthai.com
ภาพจาก Internet

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น