วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รวม 22 สัญญาณของการนอกใจที่พบได้ง่ายที่สุด

เมื่อเวลาผ่านไป ความเลวร้ายของผู้ชายก็ฉายแววออกมาไม่น้อย
      'เมียน้อย คือผู้หญิงที่ดีที่สุดของผู้ชาย ที่เพิ่งมาค้นพบในภายหลัง' เป็นคำกล่าวของเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง ซึ่งผมกำลังลุ้นอยู่ว่าในอนาคตเขาอาจเสียชีวิตจากเมียหลวง ผู้ที่เขาให้ความหมายว่า 'ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยดีมาก่อน แต่กาลเวลาได้กัดกร่อนความดีงามของเธอจนหมดสิ้น' แต่เพื่อนผมมันก็ลืมตัวไปเหมือนกันว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความเลวร้ายของผู้ชายก็ฉายแววออกมาไม่น้อย
      ถ้าเจอกรณีคู่สมรสประเภท 'หญิงก็ร้าย – ชายก็เลว' ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะเป็นฝ่ายจำยอม หรือยับยั้งชั่งใจได้มากกว่า ในขณะที่ฝ่ายชายมีทางออกได้เยอะ เรื่องสามีนอกใจภรรยาจึงพบบ่อยกว่าอีกฝ่าย ซึ่งถ้อยคำ 'นอกใจ' จะถูกแทนที่ด้วยคำว่า 'คบชู้' รุนแรงกว่าหลายเท่า
หญิงกับชาย : คิดและรู้สึกไม่เหมือนกัน 
      จิตใจของผู้ชายกับผู้หญิงนี่ไม่เหมือนกันจริงๆ หนังสือที่พูดถึงจิตวิทยาความแตกต่างระหว่างชายหญิงชื่อดังสองเล่ม ได้แก่ Men are from Mars, women are from Venus โดยนักจิตวิทยาชื่อ John Grey กับอีกเล่มที่ตีพิมพ์เมื่อหลายปีก่อน (1999) ชื่อ Why men don’t listen & women can’t read maps โดยสองสามีภรรยา Allan & Barbara Pease ที่ต่างก็ยืนยันความแตกต่างนั้น ไม่ได้เป็นผลจากการเลี้ยงดู แต่เป็นเพราะมันถูกกำหนดมาแล้วในเลือดเนื้อและชีวิต


หญิงกับชาย : อารมณ์ความรู้สึกไม่เหมือนกัน 
      ยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงให้ชัด ๆ จากการทำงานเป็นจิตแพทย์ผู้ให้การปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ ผมพบว่า 80 % ของผู้ชายมักมีปัญหาข้อคำถามเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ และส่วนใหญ่ของผู้หญิงก็เป็นทุกข์เพราะความรัก
        ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ…ฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen) เป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ความเสน่หา ส่วนฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) เป็นฮอร์โมนแห่งความต้องการทางเพศ และความก้าวร้าว
       ในขณะที่ผู้ชายมีฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) สูงกว่าผู้หญิงถึง 10 - 20 เท่า และศูนย์กระตุ้นทางเพศ (sex center) ในสมองส่วน hypothalamus ของผู้ชายก็มีขนาดใหญ่กว่าเพศตรงข้ามอีกด้วย ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้ชายถึง 'บ้าเซ็กส์' มากกว่าผู้หญิง นี่พูดถึงคนส่วนใหญ่นะครับ ส่วนน้อยอาจมีบ้างที่กลับกัน
      ฮอร์โมนเพศหญิงมีสองชนิด คือ Estrogen และ progesterone ขึ้น ๆ ลง ๆ สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผนังมดลูกตามรอบเดือน แต่เราเพิ่งเข้าใจกันมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เองว่ามันส่งผลต่อจิตใจทำให้ผู้หญิงมีบทบาทเป็นแม่ บังเกิดความรู้สึกอยากเลี้ยงดูและให้อาหารแก่บุตร Progesterone เป็นฮอร์โมนแห่งความเป็นแม่
      นอกจากฮอร์โมนแห่งความรักแล้ว ธรรมชาติยัง 'ซ้ำเติม' ผู้หญิงด้วย oxytocin เป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพัน (emotional attachment) ซึ่งมีผลต่อร่างกาย ทำให้มดลูกบีบตัว จะหลั่งออกมา 3 กรณี
            1.ขณะคลอดลูก มดลูกบีบตัว และรู้สึกผูกพันกับเด็กที่คลอดออกมา
            2.ขณะให้นมลูก น้ำนมที่ไหลรินกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน เกิดความผูกพันกับลูกน้อยในอ้อมแขน
            3.ขณะมีเพศสัมพันธ์ มดลูกบีบตัว พร้อมความรู้สึกผูกพันกับชายหนุ่มในอ้อมขา
      ผู้หญิงมี oxytocin เยอะ ในขณะที่ผู้ชายมีน้อย รู้เหตุผลหรือยังครับว่าทำไมผู้หญิงรักเดียวใจเดียว แต่ผู้ชายจึงหลายใจ เพราะฉะนั้น ผู้ชายเองก็ขาด 'ภูมิต้านทานการนอกใจ' เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บางคนกำลังมีความคิดว่าน่าจะมีโรงงานสังเคราะห์ oxytocin ผลิตออกมาเป็นวิตามินบำรุงความรักความผูกพัน ให้สามีกินประจำเช้าและก่อนนอน เพิ่มพูนความต้านทานลดอาการอยากนอกใจคู่ชีวิต
           ทำไมหนอสามีจึงนอกใจ ผมเรียบเรียงดูว่ามีกรณีไหนบ้างในประสบการณ์จริงที่เคยเจอ นอกเหนือจากที่อ่านจากตำราซึ่งว่ากันตามทฤษฎี
อดอยากปากแห้งในเรื่องเซ็กส์
     ลองดูตัวอย่างจดหมายจากสามีที่เขียนบรรยายความทุกข์ จากการที่ได้ภรรยาแสนดีรายนี้
       'ผมรู้จักกับแฟนโดยการสนับสนุนของผู้ใหญ่สองฝ่าย เธอเป็นผู้หญิงสวยน่ารัก มารยาทดี ผมจึงแต่งงานกับเธอโดยไม่เคยคิดว่าการเป็นกุลสตรีของเธอจะก่อปัญหา เธอเห็นว่าการร่วมเพศก็เพื่อมีลูกเท่านั้น ผมมีความต้องการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แฟนก็ว่าผมหมกมุ่นเรื่องนี้มากไป เราประนีประนอมกันว่าจะร่วมรักกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เธอก็หาเรื่องบ่ายเบี่ยงตลอด ผมซื้อหนังสือเพศศึกษาให้เธอ เธอก็ไม่ยอมอ่าน นัดไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเธอก็ว่าผมบ้า ที่เอาเรื่องส่วนตัวไปเล่าให้คนอื่นฟัง
       ผมขอไปเที่ยวหญิงบริการจะได้ไม่กวนเธอ เธอก็บอกว่ายอมไม่ได้ จับได้จะขอหย่า หลัง ๆ ถึงขนาดทะเลาะกัน เธอบอกว่าเธอเป็นแม่บ้านที่ดีทุกอย่าง ผมไม่รักเธอเพราะเรื่องเดียว เธอขอว่าไม่ร่วมรักได้ไหม แล้วเธอจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด ผมไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะผมมีความต้องการทางเพศ และไม่คิดว่าตัวเองหมกมุ่นหรือผิดปกติด้วย ผมทำให้เธอมีความสุขเรื่องนี้ได้ยาก เพราะเธอไม่ร่วมมือ เวลาทำก็เร่งผมให้เสร็จเร็ว ๆ เวลาอื่นผมกอดเธอจูบเธอ เธอจะอารมณ์เสียเพราะคิดว่าผมกำลังจะขอร่วมเพศ ผมอยากขอคำปรึกษาครับจากใครก็ได้ ผมไม่อยากหย่าภรรยาทั้ง ๆ ที่เธอดีแต่มีปัญหาเรื่องเซ็กส์เรื่องเดียว อย่าแนะนำให้ผมอดทนนะครับเพราะมันไม่แก้ปัญหา'
      นี่เป็นกรณีสุดโต่งที่ฝ่ายหญิงเป็น 'โรครังเกียจการมีเพศสัมพันธ์' (Sexual Aversion Disorder) ซึ่งถือเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูหรือประสบการณ์ในวัยเด็ก ทำให้มีทัศนคติทางลบอย่างรุนแรงต่อเรื่องเพศ ผมว่ารายนี้ ถ้าภรรยาไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อบำบัดรักษาโรคที่ตัวเองเป็น ชีวิตคู่คงสิ้นสุดด้วยการแยกทางกัน หรือไม่แล้วก็ต้องมีมือที่สามเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด สามีต้องหาทางออกที่นอกบ้าน
      ผมได้รับการปรึกษาจากผู้หญิงไม่น้อยที่สามีปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ จนทำให้ฝ่ายหญิงแปลกใจและอึดอัด เหมือนชีวิตคู่ขาดอะไรบางอย่าง แต่ที่คิดถึงกับจะนอกใจนอกกายคู่สมรส กลับมีไม่มากเมื่อเทียบกับกรณีเดียวกันที่เกิดกับฝ่ายชาย
      ก็บอกแล้วว่า ฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนแห่งเซ็กส์ ผู้หญิงส่วนใหญ่ทนเรื่องขาดเซ็กส์ได้ดีกว่าผู้ชาย
      ขอมีของหวานเสริมสักหน่อย…น่าจะเป็นประเด็นที่พบบ่อยที่สุด อย่างที่เคยพูดเคยเขียนอยู่หลายครั้งว่าแนวคิดของเพศชาย คือ 'เซ็กส์ในบ้าน อิ่มแต่ไม่อร่อย - เซ็กส์นอกบ้าน อร่อยแต่ไม่อิ่ม' ภรรยาไม่มีความบกพร่องใด ๆ การปรนนิบัติไม่เคยขาด การสนองเรื่องเพศไม่มีที่ติ ไม่เคยอดอยากปากแห้ง แต่ผู้ชายก็ยังรู้สึกไม่พอ ต้องขออาหารเสริมจากภายนอก
      การแก้ไขป้องกันต้องเป็นการสื่อสารทางบวกด้วยภาษาคำพูดและภาษากายที่จะพัฒนาหรือ Upgrade ความรักจากเสน่หาเมื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ มาเป็นเมตตาต่อกัน ทำสติ๊กเกอร์แปะไว้ในห้องน้ำ 'สามีมีเมตตา - ภรรยาไม่ช้ำใจ'
      ความเมตตาเป็นวัคซีนที่สำคัญ ป้องกันการนอกใจ ช่วยให้สามียับยั้งชั่งใจต่อกิจกรรม 'เกมซ่อนเนื้อ' กับหญิงอื่น…ภรรยาต้องยืนยันหนักแน่นเสมอว่า การนอกใจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และหากมีสิ่งใดที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ต้องช่วยกันสร้างสรรค์ 'เปลี่ยนที่ก็ยังพอทน แต่ถ้าเปลี่ยนคนก็พอกันที'
      บรรยากาศในบ้านต้องอบอุ่นและเป็นสุข ภรรยาต้องเป็นคนที่สามีอยู่ใกล้แล้วจิตใจเป็นสุข เพราะธรรมชาติของมนุษย์ก็คือ ที่ใดไปแล้วมีสุข เราก็อยากไปอีก คนไหนที่อยู่ใกล้แล้วมีสุข เราก็อยากเจอคนนั้นบ่อยๆ และคนๆ นั้นควรต้องเป็นภรรยาที่บ้าน ไม่ใช่บรรดาน้องๆ ตองสาม เหล่านางงามในตู้กระจก ใครจะเหนือชั้นกว่าใคร ให้มันรู้ไป
สามีสันดานเจ้าชู้
      ปัจจุบันเราไม่ค่อยแน่ใจว่า 'ความเจ้าชู้' ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้หรือไม่ และนิสัยเจ้าชู้เป็นสิ่งที่ติดตัวอยู่ในสมองหรือโครโมโซมหรือเปล่า เพราะความเจ้าชู้ของผู้ชายหลายคนตั้งแต่วัยหนุ่มมันหยั่งรากฝังลึกในจิตวิญญาณจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้วัยมากขึ้น และแม้ว่าจะรักภรรยาปานจะกลืนกิน เมตตาแค่ไหน สามีก็มิอาจควบคุมใจในเรื่องนี้ ต้องหากินนอกบ้านร่ำไป เพราะปัญหาสำคัญคือ วุฒิภาวะของสามี คือความสามารถในการควบคุมแรงขับในใจ และแสดงออกอย่างเหมาะสม
      พูดอีกอย่าง วุติภาวะคือความสามารถที่สมองส่วนคิดทำงานเหนือสมองส่วนอยาก เพราะฉะนั้น ถ้าสามีของเราเป็นคนที่สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด ไม่แยแสต่อความรู้สึกของภรรยา ทางออกสองอย่าง คือ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนผัวใหม่ ก็ต้องทำใจยอมรับ อยู่กับสิ่งที่เขาเป็น อย่างไม่เป็นทุกข์มากนัก 'สุขหรือทุกข์ในใจเรา อย่าให้คนอื่นเขามากำหนด' หากเป็นเจ้าของตัวเขาคนเดียวไม่ได้ เราก็ต้องเป็นเจ้าของชีวิตและจิตใจตัวเราเอง...
   สัญญาณของการนอกใจเกิดขึ้นได้ เพราะใช่ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว ทุกคู่จะครองเรือนกันได้ตลอดรอดฝั่ง แถมทุกวันนี้โอกาสที่ชีวิตรักจะถูกมือที่สามเข้าแทรกแซง ก็มีเปอร์เซ็นต์สูง แต่เราจะสังเกตได้อย่างไรนั้น คำตอบด้านล่างอาจตรงใจหลายๆ คู่อยู่ก็เป็นได้ค่ะ
       1.คู่ของคุณแสดงอาการเบื่อหน่ายออกมา โดยอาจจะอ้างว่า เบื่องาน เบื่อลูกๆ เบื่อหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต รวมทั้งเบื่อตัวคุณด้วย
       2.คู่ของคุณเผยให้ทราบว่า ชีวิตของเขา หรือเธอในตอนนี้ต้องการสิ่งเร้าใจ ความแปลกใหม่
       3.คู่ของคุณเริ่มมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ
       4.คุณสังเกตได้ว่า คู่ของคุณมักจะแสดงอาการสับสนในตัวเองบ่อยๆ 
       5.คู่ของคุณกลายเป็นคนขี้เกียจ โดยเฉพาะเมื่อเวลากลับมาถึงบ้าน มักจะนอน หรือนั่งนิ่งๆ โดยไม่สนใจความเป็นไปของสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว
       
       6.คู่ของคุณกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะเวลาอยู่กับคนที่บ้าน
       7.คุณและคู่ครองไม่สามารถสื่อสารกันด้วยความเข้าอกเข้าใจเหมือนที่เคย
       8.เขาหรือเธอทำงานหนักขึ้น หรือต้องกลับบ้านค่ำมืด เพราะงานมากขึ้น
       9.ไม่ถามไถ่ความเป็นไปในชีวิตของคุณเหมือนในอดีต เพราะสนใจในความสัมพันธ์ของตนเองกับคนใหม่มากกว่า
      10.มีความผิดปกติทางการเงิน คุณอาจพบว่า เขาไปเปิดบัญชีใหม่โดยไม่บอกคุณ และนำเงินบางส่วนใส่ไว้ในบัญชีนั้นโดยที่คุณไม่ทราบ หรือมียอดการใช้บัตรเครดิตที่น่าสงสัย
      11.มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างผิดปกติ เช่น หากเขาเคยเช็กเมลที่บ้านก่อนนอน ก็อาจไม่เช็กเมลให้คุณเห็นอีก แต่อาจเปลี่ยนไปเช็กผ่านทางโทรศัพท์มือถือแทน
      12.มองหาร้านอาหารอร่อยๆ จากสื่อต่างๆ อยู่เสมอ แต่ไม่เคยชวน หรือพาคุณไปรับประทานเลย
      13.เปลี่ยนลุกให้ดูดีขึ้นอย่างผิดสังเกต เช่น ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ตัดผมทรงใหม่ ดูแลตัวเองมากขึ้น
      14.ไม่ทำกิจกรรมร่วมกับคุณ หรือสมาชิกในครอบครัวเหมือนเก่า
      15.พบความผิดปกติบนตัวเลขไมล์บนหน้าปัดรถยนต์ เช่น อาจจะขับรถเป็นระยะทางไกลขึ้นกว่าปกติที่เคยขับไปทำงาน
       16.ประวัติการใช้โทรศัพท์มือถือถูกลบจนเกลี้ยง หรือมีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทร.มาเสมอ
       17.มีเพื่อนต่างเพศที่สนิท (มาก) และมักใช้เวลาอยู่กับเพื่อนคนนั้นบ่อยๆ
       18.กิจกรรมทางเพศระหว่างคุณกับเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด
       19.หากให้เล่าเรื่องในอดีต อาจพบว่าแต่ละครั้งเล่าได้ไม่เหมือนกัน
       20.คู่ของคุณมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่อยู่กับร่องกับรอย ชอบอยู่คนเดียวมากขึ้น
       21.หากมีการพูดถึงเรื่องการนอกใจ คู่ของคุณอาจแสดงความเห็นที่แปลกไปในหัวข้อดังกล่าว เช่น หากเคยต่อต้านอย่างรุนแรง มาในวันนี้อาจเห็นด้วย หรือไม่แสดงความเห็นด้านลบออกมา
       22.หากมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศโดยที่สามารถพาคู่ครองไปได้ เขาหรือเธอเลือกที่จะไม่ชวนคุณไป


ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th
love.horoworld.com
นพ. สุกมล วิภาวีพลกุล/นิตยสารรักลูก
ภาพจาก : อินเทอร์เน็ต(Internet)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น